เรื่องราวความสำเร็จ
ดูเหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่คนสองคนต่อไปนี้คือคนคนเดียวกัน คนแรกคือเจ้าของร้านแกงเป็ดที่ใกล้ล้มละลาย ส่วนคนที่สองคืออิมพีเรียลมาสเตอร์คนแรกของอะโทมี่ ทั้งสองคนนี้แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ความเป็นจริงแล้ว ทั้งคู่คือคนคนเดียวกัน และเธอคือปาร์ค จอง-ซู
เป้าหมายคือความสำเร็จของพาร์ทเนอร์
ชื่อ ‘ปาร์ค จอง-ซู’ เป็นชื่อที่ใครๆ ก็รู้จัก เธอก้าวขึ้นมาเป็นรอยัลมาสเตอร์คนแรก ขึ้นมาเป็นคราวน์มาสเตอร์ และในที่สุดก็เป็นอิมพีเรียลมาสเตอร์คนแรก เส้นทางสู่ความสำเร็จของปาร์ค จอง-ซูนั้นเป็นเส้นทางที่สมาชิกอะโทมี่ต่างต้องการเรียนรู้กันทั้งสิ้น
ย้อนไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2017 ในงานเลี้ยงฉลองการเลื่อนตำแหน่งอิมพีเรียลมาสเตอร์คนแรก คุณคิดว่าผู้ที่ได้รับรางวัลจำนวน 1 พันล้านวอนจะรู้สึกอย่างไรเมื่อต้องใช้รถยกมาขนเงินทั้งหมดกลับบ้าน อิมพีเรียลมาสเตอร์ ปาร์ค จอง-ซู ย้อนนึกถึงวันนั้นและเล่าว่าเธอรู้สึกตื้นตันใจมาก “วันนั้นเป็นวันที่ความฝันของฉันกลายเป็นความจริง” นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันทำได้ตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ใครๆ จะคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้” หลังจากนั้น มีสมาชิกหลายคนเปิดเผยว่า พวกเขาตัดสินใจหันมาทำธุรกิจกับอะโทมี่หลังจากที่ได้เห็นภาพรถยกขนเงินสดจำนวน 1 พันล้านวอน พวกเขาคงรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของความฝันและวิสัยทัศน์ของผู้รับ มากกว่าจะเป็นน้ำหนักของเงินสด แล้วทั้งหมดนี้เพียงพอสำหรับเธอหรือไม่ ตอบได้ว่าไม่ ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกมาก “แค่สปอนเซอร์อยู่ด้วย พาร์ทเนอร์ก็จะสามารถทำงานได้หนักขึ้น” คล้ายกับความรู้สึกของลูกๆ ที่เริ่มกังวลใจเมื่อไม่ได้เห็นคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆ ฉันคิดว่าก็คงเทียบได้กับความสัมพันธ์ระหว่างสปอนเซอร์กับพาร์ทเนอร์”
ปาร์คเล่าว่าเธอไม่ได้รู้สึกกดดันมากนักเมื่อได้ขึ้นตำแหน่งเป็นอิมพีเรียลมาสเตอร์ อันที่จริง เธอเคยรู้สึกเครียดมากกว่านี้เมื่อครั้งที่ได้ขึ้นมาสู่ตำแหน่งรอยัลมาสเตอร์ ที่จริงแลัว หลังจากที่เธอขึ้นมาเป็นคราวน์มาสเตอร์ เธอเคยคิดด้วยซ้ำว่าน่าจะมีคนอื่นที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งก่อนเธอ แต่ทว่าเธอกลายเป็น ‘คนแรก’ ในแต่ละตำแหน่ง นั่นหมายถึงเธอไม่สามารถหยุดพักได้เลยหลังจากที่ได้บรรลุความสำเร็จในแต่ละขั้น เพราะเธอมีแรงผลักดันให้ก้าวต่อไป “คำว่า ‘คนแรก’ เปรียบเสมือนหัวรถจักรที่ขับเคลื่อนรถไฟให้แล่นต่อไปไม่หยุดยั้ง ถ้าหัวรถจักรหยุด ตู้ขนส่งผู้โดยสารทั้งหมดก็ต้องหยุดด้วยเช่นกัน”
มองแต่จุดแข็งของพาร์ทเนอร์ของคุณ
อะไรคือจุดแข็งที่สุดของอิมพีเรียลมาสเตอร์ปาร์ค จอง-ซู ตอบได้ว่านั่นก็คือ การมองแต่ข้อดีของพาร์ทเนอร์ “ฉันมักจะเห็นถึงจุดแข็งของคนอื่นๆ ก่อนเสมอ ฉันสนใจที่พรสวรรค์ของแต่ละคนและสังเกตเห็นว่าพวกเขาเก่งในเรื่องอะไรมากกว่าฉัน และฉันยอมรับในความสามารถของคนอื่นๆ อะโทมี่เป็นธุรกิจที่สามารถประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆ ถ้าคุณมองแต่ด้านลบของคนอื่นๆ คุณย่อมจะมีปัญหา ในขณะที่ถ้าคุณมองที่จุดเด่นของคนอื่นๆ ก่อน ก็จะทำให้คุณยอมรับความสามารถของคนอื่นๆ วิธีนี้จะนำไปสู่การสื่อสารที่ได้ผล และคุณจะสามารถโน้มน้าวผู้คนจำนวนมากได้ ถามว่านี่คือเคล็ดลับหรือเปล่า ก็อาจจะใช่ เพราะด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่เคยได้ยินข่าวว่าปาร์คขัดแย้งกับพาร์ทเนอร์คนไหนเลย
แม้ว่าปาร์คจะพยายามมองที่ด้านดีของคนอื่นๆ แต่ถ้าเธอเห็นว่ามีใครไม่ปฏิบัติตามหลักการขององค์กร เธอก็จะค่อยๆ ห่างจากพวกเขาไปโดยอัตโนมัติ “มีพาร์ทเนอร์บางคนที่ชอบคิดว่าพวกเขาต้องได้รับความช่วยเหลือจากสปอนเซอร์ แต่นั่นเป็นวิธีคิดแบบคนที่คอยแต่จะแบมือขอ ฉันไม่อยากเสียเวลากับคนเหล่านั้นค่ะ” ปาร์คบอกว่าเธอเคยเจอคนที่ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แม้ว่าการทำแบบนั้นจะสร้างความเสียหายต่อคนอื่นก็ตาม “ถ้าฉันทนคนเหล่านั้นได้ บางทีฉันอาจจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่านี้ แต่ฉันทนไม่ได้และไม่ควรมีใครต้องทน เพราะอะโทมี่เป็นที่ที่แม้แต่คนที่ไม่มีที่ไป ก็ยังสามารถใช้โอกาสจากที่นี่เพื่อให้ประสบความสำเร็จได้”
วันนี้ยิ่งมั่นใจในวิสัยทัศน์ของอะโทมี่
บางทีบทกวีที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มชาวอะโทมี่ก็คือ บทกวีที่ชื่อ ‘Instrumental Flight’ ของท่านประธานปาร์ค และคนที่ท่านประธานปาร์คนึกถึงเมื่อตอนแต่งบทกวีนี้ก็คือปาร์ค จอง-ซู โดยหลังจากที่ปาร์คเริ่มธุรกิจอะโทมี่ได้ไม่นาน เธอรู้สึกกังวลว่าบริษัทจะไปรอดหรือไม่ “ในช่วงแรกฉันยังไม่เข้าใจวิสัยทัศน์ของบริษัท แต่วันนี้ฉันเข้าใจชัดเจนแล้วค่ะ ฉันไม่รู้สึกกังวลว่าบริษัทจะล่มสลายอีกต่อไป หลายคนรู้จักแบรนด์อะโทมี่ แต่ก็ยังมีอีกมากที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของเรา"
ใครที่ทำงานหนักก็จะทราบดี อะโทมี่ในวันนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและภาพลักษณ์ของบริษัทก็ดี อาจจะยังมีบางคนที่รู้สึกแง่ลบกับธุรกิจเครือข่าย แต่ส่วนใหญ่แล้ว อะโทมี่มีชื่อเสียงว่าเป็นบริษัทที่ขายสินค้ามีคุณภาพในราคาไม่แพง การเข้าร่วมกับอะโทมี่ในวันนี้ จึงหมายถึงคนที่ไม่ได้เป็น ‘คนเคลื่อนไหวคนแรก’ แต่เป็น ‘คนติดตามที่รวดเร็ว’ ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางที่ง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้น “คุณเพียงแค่ต้องขยัน นั่นคือวิธีที่คุณจะเอาชนะใจคนอื่นๆ ได้ค่ะ” คุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่าอะโทมี่มีสมาชิกถึง 3 ล้านคนแล้ว “ยังมีตลาดในทั่วโลก ยังมีคนอีกมากมายในเกาหลีที่ไม่ค่อยรู้จักอะโทมี่มากนัก สิ่งนี้เรียกว่า ‘ความกลัวที่ไม่มีเหตุผล’ เมื่อเร็วๆ นี้ อิมพีเรียลมาสเตอร์ปาร์ค จอง-ซู ได้แนะนำธุรกิจอะโทมี่ให้แก่น้องสาวของเธอ “น้องสาวของฉันบอกว่า หลายคนยังไม่ค่อยรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอะโทมี่มากนัก” นอกจากนี้ ในมุมมองระดับโลกแล้ว เรายังเพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้น อะโทมี่มีสมาชิก 5 ล้านคนเทียบกับประชากรโลกที่มีจำนวนถึง 7 พันล้านคน ยังมีคนอีกถึง 6,995 ล้านคนที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สถานการณ์ในเกาหลีก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้อะโทมี่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นกลาง
ฉันโชคดีพอที่ได้รู้จักกับอะโทมี่ เพราะฉันเชื่อว่าฉันจะมีความสุขมากถ้าโชคนำพาฉันไปสู่ความสำเร็จ “แต่ไม่ใช่โชคสำหรับคนที่เลิกล้มกลางคันเพราะเห็นว่ามันยากเกินไป อันที่จริง ธุรกิจของอะโทมี่ในวันนี้ทำได้ง่ายกว่าในอดีตอย่างมาก เพราะแต่ก่อนยังไม่ค่อยมีใครรู้จักอะโทมี่ คุณต้องพบปะผู้คนมากมาย และสามารถแนะนำอะโทมี่ให้กับคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ที่มีทัศนคติเชิงบวกแบบนี้ อะโทมี่สามารถช่วยให้พวกเขาโชคดีได้
‘โอกาสที่สามารถพลิกชีวิตคุณได้’
คีย์เวิร์ดของ ความสำเร็จของอะโทมี่
01 การตัดสินใจเพื่อตัวเอง
02 มองหาจุดแข็งของคนอื่นๆ
03 อย่าพลาดการประชุมสัมมนา
ถ้าฉันไม่ได้ทำธุรกิจอะโทมี่ ตอนนี้ฉันคง
เป็นแค่ผู้หญิงอ้วนๆ คนหนึ่ง ที่ต้องแบกภาระหนักอึ้งไว้บนบ่า
สิ่งที่ยังไม่ได้ทำและอยากทำในชีวิต
มอบของขวัญอันล้ำค่าให้ตัวเอง นั่นคือการมีเวลาว่าง
แม้ว่าฉันจะประสบความสำเร็จ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังทำไม่ได้
ดังนั้นต่อจากนี้ไป ฉันจะใช้เวลาเพื่อช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ ฉันเชื่อว่าฉันต้องมาที่สำนักงาน เพื่อที่พาร์ทเนอร์จะสามารถมีส่วนร่วมในธุรกิจของพวกเขาได้อย่างมั่นใจ
ประเด็นสำคัญของอิมพีเรียลมาสเตอร์ ปาร์ค จอง-ซู
ข้อ 1 การใช้ชีวิต
รักษาเกียรติของคุณ
"ถ้าคุณต้องการจะใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติ คุณก็ไม่ควรพึ่งพาคนอื่น ถ้าคุณใช้ชีวิตและทำงานอย่างขยันขันแข็ง คนอื่นๆ จะเห็นค่าของตัวคุณ และถ้าคุณใช้ชีวิตแบบนั้นให้คนอื่นๆ เห็น คุณก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายแล้ว
ข้อ 2 ความรัก
แบ่งปันความรักของคุณให้แก่คนอื่นๆ
"ความรักสามารถครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง คำกล่าวที่ว่า ความรักห้อมล้อมทุกสิ่งไว้นั้น ไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลย ในความสัมพันธ์กับคู่รัก กับเพื่อนฝูง และแม้แต่กับเพื่อนร่วมงาน ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ถ้ามีความรัก อะโทมี่เป็นธุรกิจของการแบ่งปันความรักนั้นให้แก่ผู้อื่นเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้เป็นที่ที่น่าอยู่มากขึ้น”
ข้อ 3 การเรียนรู้
ชีวิตคือการเรียนรู้ที่ไม่จบสิ้น
“การเรียนรู้คือ การขยายขีดความสามารถของเราในการยอมรับผู้อื่น และในการทำให้ตัวตนภายในของเราเติบโตขึ้นด้วยขีดความสามารถนั้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องเรียนรู้อยู่เสมอจนตลอดชีวิต ในธุรกิจอะโทมี่ คุณต้องสามารถรับฟังและอดทนต่อคนอื่นๆ และยอมรับข้อผิดพลาดของคนอื่นๆ ได้ คุณต้องหมั่นปรับปรุงทักษะการบรรยายและการโน้มน้าวของคุณด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้”
ข้อ 4 ชีวิตการทำประโยชน์
เพื่อความสำเร็จของพาร์ทเนอร์
ธุรกิจอะโทมี่ทำให้เราต้องทำงานกับคนอื่นๆ เพราะเราต้องช่วยให้พาร์ทเนอร์ของเราประสบความสำเร็จ ซึ่งเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่แค่การบรรลุความสำเร็จของเราเอง แต่คุณต้องทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จของหุ้นส่วนของคุณ ฉันต้องการช่วยให้คนอื่นๆ ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะคนที่ตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง นอกจากนี้ ฉันยังวางแผนที่จะมีส่วนร่วมให้มากขึ้นในโครงการ SOS ด้วย
เนื้อหาในนิตยสาร เช่น ตำแหน่งนั้นเป็นข้อมูลของ THE ATOMIANS 2019 (ตีพิมพ์เดือนพฤษภาคม 2019)