ที่อะโทมี่ เราพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะกำจัดงานออกไป งานก็เปรียบเสมือนวัชพืชในฤดูใบไม้ผลิที่มักจะงอกขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ แม้จะถูกถอนไปแล้ว เราควรกำจัดงานให้เหมือนกับการถอนวัชพืชแบบถอนรากถอนโคน เนื่องจากงานหลั่งไหลเข้ามาไม่มีวันหมด จึงควรพยายามกำจัดงานที่ไม่มีประโยชน์ออกไปและมุ่งเน้นไปที่ขั้นตอนที่สร้างสรรค์ด้วยทัศนคติเชิงรุกไม่ใช่เชิงรับ

เราคิดถึงเรื่องผลกระทบที่ดีในขณะที่ทำงานที่อะโทมี่ ผลกระทบนี้ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งหรือสถานะ แต่เกี่ยวกับขอบเขตและความครอบคลุมของงานของเรา ยิ่งงานของเราครอบคลุมมากเท่าใด ก็ยิ่งสร้างผลกระทบที่ดีได้มากขึ้นเท่านั้น งานที่เราทำไม่ใช่แค่งานในแผนกของเราเท่านั้น แต่เป็นงานของทุกๆ แผนกในบริษัท ที่อะโทมี่ เราทำงานในแนวระนาบ ไม่ใช่แนวดิ่ง และเน้นความครอบคลุม ไม่ใช่การลงลึกในรายละเอียด

ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตามที่คุณต้องทำ อย่าขอร้องให้คนอื่นทำให้คุณ คุณต้องเป็นคนลงมือทำเอง ที่อะโทมี่ งานที่คุณไขว่คว้ามาและทำด้วยตัวเองถือเป็นงานที่แท้จริง เมื่อมีใครบอกให้คุณทำอะไร งานนั้นจะเป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ ที่อะโทมี่ เราสามารถตัดสินใจเองได้และทำงานในแบบของตนเองซึ่งจะทำให้งานสนุกมากขึ้น

งานของอะโทมี่เป็นงานตามโครงการ โครงการก็เป็นเหมือนอะมีบาที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เมื่อสร้างทีมขึ้นมาแล้ว ผู้ที่เหมาะสมสำหรับโครงการนั้นที่สุดจะได้เป็นหัวหน้าโดยไม่คำนึงถึงประสบการณ์หรือตำแหน่ง โดยบุคคลนี้จะสามารถทำงานอย่างเต็มที่ มีความสนุกสนาน และเป็น “ผู้ช่วยเหลือที่มีความกระตือรือร้นสูง” ในระบบเช่นนี้ ใครๆ ที่อยู่ในอะโทมี่ก็สามารถเป็นผู้จัดการโครงการหรือสมาชิกในทีมได้

วัฒนธรรมองค์กรของอะโทมี่ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบนั้นเป็นวัฒนธรรมแบบใหม่ เราให้อำนาจพนักงานของเราโดยไม่ได้คาดคั้นความรับผิดชอบจากพวกเขา วิธีนี้จะป้องกันไม่ให้พนักงานรู้สึกกลัวที่จะต้องรับมือกับผลที่ตามมา อะโทมี่จะเป็นผู้ให้ความคิดเห็นที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโต ไม่ใช่การประเมินภาระรับผิดชอบ พนักงานของเราจะเติบโตขึ้นด้วยความคิดเห็นเหล่านี้และได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสม

สิ่งที่เลวร้ายกว่าความล้มเหลว คือการไม่พยายามทำอะไรเพราะกลัวที่จะล้มเหลว ในวัฒนธรรมของอิสราเอล แรบไบจะสอนเหล่าลูกศิษย์ให้เพียรถามคำถามที่ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าพวกเขาจะเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างถ่องแท้ วิธีนี้คือส่วนหนึ่งของ “กรอบความคิดแบบกล้าบ้าบิ่น” (Chutzpah) ที่อะโทมี่ เราส่งเสริมให้พนักงานถามคำถามในเรื่องที่พวกเขาไม่เข้าใจไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้คำตอบ

ความซื่อสัตย์และความดีคือกลยุทธ์ที่ดีที่สุด เราคาดหวังให้พนักงานของเราทำงานด้วยความซื่อสัตย์และใส่ใจผู้อื่น คนที่คิดถึงแต่ความสำเร็จของตัวเองโดยไม่ใส่ใจผู้อื่นหรือไม่สนใจหลักการจะไม่สามารถประสบความสำเร็จภายใต้มาตรฐานของอะโทมี่ การยึดมั่นในหลักการที่สำคัญ การมีส่วนร่วม และการมีความซื่อสัตย์ ทั้งหมดนี้คือค่านิยมที่สำคัญ