คงเป็นเรื่องปาฏิหารย์ถ้าคุณไม่สามารถประสบความสำเร็จที่อะโทมี่ได้ อิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ด็อก อูชอบพูดแบบนี้เสมอ เขามีประสบการณ์มามากด้านธุรกิจเครือข่าย แต่ก็ล้มเหลวมาโดยตลอดในช่วงระยะเวลา 17 ปี ตอนที่เขาได้รู้จักกับอะโทมี่เป็นครั้งแรก เขาไม่มีที่ไปจนต้องนอนในเรือนกระจก ทันทีที่ได้ติดต่อกับอะโทมี่ ลีก็มั่นใจว่าเขาสามารถจะประสบความสำเร็จได้ อิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ด็อก อูแทบจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลประสาทเมื่อเขาประกาศว่าจะทำธุรกิจอะโทมี่ แล้วอะไรกันที่ชักนำให้เขาเข้ามาทำธุรกิจอะโทมี่

ความสำเร็จที่มีทั้งสุขและเศร้า - ความคิดที่จะเป็นอิมพีเรียลมาสเตอร์

วันที่ 16 มีนาคม ปี 2018 ในงานซัคเซส อะคาเดมี่ ที่จัดขึ้นที่ Kintex เมืองอิลซาน สมาชิกลี ด็อก อู ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสู่ตำแหน่งสูงสุดในอะโทมี่ ท่านประธานปาร์คขับรถยกมาด้วยตนเองเพื่อส่งมอบเงินสดที่ขนมาเต็มรถให้แก่ลี ด็อก อู คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1 พันล้านวอน แล้วตอนนั้นลีรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าคุณคิดว่าลีจะรู้สึกเต็มตื้นและร้องไห้ออกมาด้วยความปีติ คุณคิดผิดแล้ว ลีย้อนรำลึกความหลังและเล่าว่า “ครับ ผมรู้สึกมีความสุข แต่กลับรู้สึกเศร้ามากกว่า” แล้วทำไมเขาถึงรู้สึกเศร้า เพราะเงินรางวัลนั้นน้อยเกินไป หรือเพราะเวทีนั้นดูเรียบเกินไป เปล่า ไม่ใช่เลย เขารู้สึกเศร้าเพราะเขาขึ้นมาถึงจุดสูงสุดเร็วเกินไป เขาจึงไม่มีตำแหน่งให้ไต่ขึ้นมาแล้ว ลีบอกว่า “ผมรู้สึกเศร้าเพราะไม่มีตำแหน่งสูงกว่านี้อีกแล้ว” เขาถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า “ตอนนั้น โกลบอลอะโทมี่เพิ่งจะเริ่มตั้ง…”

ตอนที่ลีเริ่มมาร่วมงานกับอะโทมี่ครั้งแรก ตอนนั้นยังไม่มีเว็บไซต์หรือแคตตาล็อก ไม่ต้องพูดถึงออฟฟิศด้วยซ้ำ บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์แค่สองรายการ แต่ลีบอกว่าหัวใจของเขาพองโต “พาร์ทเนอร์ของผมบอกผมว่า ใบหน้าผมดูเปล่งประกายขึ้นทันที คงเป็นเรื่องปาฏิหารย์ถ้าคุณไม่สามารถประสบความสำเร็จหลังที่ได้รู้จักอะโทมี่ ผมคิดว่านี่คือคำตอบสุดท้าย “คุณค่าที่แท้จริงของอะโทมี่สามารถดูได้จากการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเครือข่ายมานานถึง 17 ปี ได้หลุดพ้นจากการต้องนอนในเรือนกระจก ตอนนั้นลีสามารถมองเห็นประโยชน์ของอะโทมี่ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยา รวมทั้งไม่มีค่าธรรมเนียมการสมัครและค่าธรรมเนียมสมาชิก

อิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ด็อก อู กล่าวว่า ความลับของความสำเร็จของเขาก็คือ ‘ความรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ’ เมื่อเขามาร่วมงานกับอะโทมี่ครั้งแรก ครอบครัวเขาพยายามจะพาเขาไปโรงพยาบาลประสาท เพราะลีเคยล้มเหลวมาตลอดในธุรกิจเครือข่าย แต่ทว่าแม้แต่คนอย่างเขา ก็ยังประสบความสำเร็จที่อะโทมี่ได้ “ถ้าจะให้ผมบอกเคล็ดลับความสำเร็จ ผมคิดว่าคงเป็นเพราะผมเคยล้มเหลวมาถึง 5 ครั้งในช่วงระยะเวลา 17 ปีกับการทำงานในธุรกิจเครือข่ายของบริษัทอื่นๆ และด้วยประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณในสิ่งดีๆ ที่อะโทมี่ ผมรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์อะโทมี่ที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง เส้นสูงสุดของรายได้ และการไม่เก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมสมาชิก

เอาชนะความน่าเบื่อของการทำอะไรซ้ำๆ

หลังจากมาร่วมงานกับอะโทมี่ท่ามกลางการต่อต้านอย่างมากจากครอบครัว ผมก็ต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วนในการทำธุรกิจอะโทมี่ "เมื่อผมติดต่อคนอื่นๆ พวกเขาคิดว่าผมบ้าที่กลับมาทำธุรกิจเครือข่ายอีกครั้ง ผมคงโชคดีถ้าคนเหล่านี้ซื้อผลิตภัณฑ์จากผมสักชิ้นด้วยความสงสาร” แต่ด้วยความรู้สึกเชื่อมั่นและความรู้สึกขอบคุณในใจที่ผมมีให้อะโทมี่ จึงช่วยให้ผมสามารถเอาชนะความน่าเบื่อของการถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าได้ “เป็นเรื่องปกติมากในอะโทมี่ ที่คุณจะถูกปฏิเสธอยู่เสมอ หลายคนเลิกทำเพราะพวกเขาไม่สามารถเอาชนะความน่าเบื่อของการถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้

การที่ลีไม่เคยอารมณ์เสียเพราะเรื่องนี้ มีส่วนทำให้เขาประสบความสำเร็จ เขาอาจจะไม่รู้ตัว แต่เขาเป็นคนที่ไม่เคยทะเลาะกับใคร “บางครั้งผมอยากจะโกรธ อยากจะทะเลาะกับบางคน แต่แล้วมันก็ผ่านไป” เขาพยายามไม่เอาตัวเองไปตัดสิน และเขารักความสงบ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองถูกลบหลู่เมื่อมีใครโกรธหรือโมโหใส่เขา เขาเพียงแค่พยายามทำความเข้าใจคนที่กำลังหัวเสียอยู่นั้น “ถ้าคุณยอมรับว่าคุณล้มเหลวมา 5 ครั้งเพราะคุณคงทำอะไรผิดพลาด ก็จะเป็นการง่ายที่จะมองไปข้างหน้าต่อ นอกจากนี้ การคิดแบบนี้ยังช่วยได้ในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ และผมคิดว่าการคิดแบบนี้มีส่วนอย่างมากที่ช่วยให้ผมประสบความสำเร็จที่อะโทมี่”

ด้วยเหตุนี้ อิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ด็อก อู จึงไม่เข้าใจคนที่ต้องการจะเลิกทำอะโทมี่เพียงเพราะคิดว่างานนี้ยาก ที่จริงแล้ว ธุรกิจอะโทมี่มีศักยภาพไม่จำกัด ยังมีตลาดอีกมากมายในทั่วโลกที่อะโทมี่ยังไปไม่ถึง ไม่ว่าคุณจะถูกปฏิเสธและต้องพบกับความล้มเหลวกี่ครั้ง ตราบใดที่คุณยังอยู่ในอะโทมี่ ก็ยังมีโอกาสอีกมากที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ แต่ถ้าคุณออกจากอะโทมี่ คุณจะสูญเสียโอกาสทั้งหมดที่จะประสบความสำเร็จ “ถ้าคุณสามารถมีรายได้ 2 ถึง 3 ล้านวอนต่อเดือน แค่นั้นคุณก็ประสบความสำเร็จแล้ว คุณสามารถมั่นใจได้ถึงชีวิตหลังเกษียณ ลองนึกดูว่าคุณยังมีเงินได้แม้ว่าคุณจะอายุ 80 หรือ 100 ปีแล้ว หรืออันที่จริงคุณยังมีรายได้ไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเลยทีเดียว จะมีงานไหนที่สร้างความมั่นคงให้ได้เท่านี้”

สิ่งที่ยังไม่เคยทำและอยากทำในชีวิต

น่าสนใจที่ได้ฟังอิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ตอบว่า ช่วงเวลาที่เขาอารมณ์ดีและรู้สึกตื่นเต้นนั้น ก็ตรงกับเวลาที่เขารู้สึกกลัวและวิตกกังวลไปพร้อมกัน “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็คือ ตอนที่ผมได้เป็นสตาร์มาสเตอร์ ผมมีความสุขที่สุดเมื่อผมได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นชารอนมาสเตอร์ จากนั้นก็เป็นสตาร์มาสเตอร์ และผมสามารถได้รับเงิน 10 ล้านวอนต่อเดือน ตอนนั้นผมยังรู้สึกเครียดมากที่สุดด้วย ผมกังวลว่าอะโทมี่กำลังจะล้มละลาย ผมไม่รู้ว่าผมจะสามารถก้าวไปเป็นรอยัลมาสเตอร์ได้หรือเปล่า ตราบใดที่อะโทมี่ยังคงมั่นคงแข็งแกร่ง ไม่ว่าดัก-วู ลีจะล้มเหลวอีกกี่ครั้ง เขาก็จะสามารถลุกขึ้นยืนได้ใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าอะโทมี่หายไปล่ะ ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างที่ลีฝ่าฟันได้มาก็จะถูกลืมเลือนไปหมด ดูเหมือนว่าลีจะยังคงมีความวิตกกังวลลึกๆ อย่างนั้นแม้แต่ในเวลาที่เขากำลังมุ่งสู่ระดับสูงสุด

อิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ด็อก อูบอกว่า ไม่มีอะไรอีกแล้วที่เขาอยากทำให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะเขาได้ทำทุกอย่างที่อยากจะทำไปแล้วตั้งแต่ที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นอิมพีเรียลมาสเตอร์ “ผมทำไปหมดแล้วครับ ตั้งแต่ตีปิงปอง บิลเลียด ตีเทนนิส เล่นเปียโนแจ๊ซ ปีนเขา ตีกอล์ฟ ว่ายน้ำ และเดินเขาทั่วโลก ผมเคยอยากลองดำน้ำแบบน้ำตื้นและเล่นเครื่องร่อน แต่เลิกคิดไปแล้วทั้งสองอย่าง (หัวเราะ)” ลีเผยว่าที่เขายกเลิกความฝันที่จะทำกิจกรรมสองอย่างนั้นเพราะเสี่ยงเกินไป เพราะเขากลัวฉลามและกลัวประสบอุบัติเหตุถึงตาย

สิ่งเดียวที่เหลืออยู่สำหรับผมก็คือ ‘การใช้ชีวิต’ ‘ความรัก’ ‘การเรียนรู้’ และ ‘การช่วยเหลือผู้อื่น’” ผมคงให้คะแนนตัวเองเต็มสิบสำหรับทุกด้านที่กล่าวมา ยกเว้นเรื่อง ‘การช่วยเหลือผู้อื่น’ ผมคงให้คะแนนตัวเองแค่ 5 ครับ ผมอยากจะทำกลุ่มอาสาสมัคร SOS (กลุ่มอาสาสมัครของสมาชิกอะโทมี่) ที่ดีที่สุดในเกาหลีและในโลก” ลีทำในส่วนของเขาในเรื่องการตอบแทนคืนสู่สังคม เขาบริจาคเงินให้กลุ่มอาสาสมัครต่างๆ เช่น องค์การยูนิเซฟ และเขายังมีส่วนร่วมในกิจกรรม SOS ของอะโทมี่ด้วย เพียงแต่เขารู้สึกว่าการทำเช่นนั้นยังไม่ได้ตามมาตรฐานของเขา “ผมเชื่อว่าการทำธุรกิจอะโทมี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนช่วยเหลือสังคมเหมือนกัน เพราะเราสามารถช่วยให้พาร์ทเนอร์คนอื่นๆ ประสบความสำเร็จ”

อะโทมี่หมายถึงทั้งโลกสำหรับอิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ด็อก อู ถ้าเขาไม่พบกับอะโทมี่ เขาคงจะไม่สามารถพลิกฟื้นชีวิตขึ้นมาได้ และคงไม่สามารถทำตามความฝันที่ตั้งไว้ “อะโทมี่คือสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด และการอยู่ที่นี่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมเหมาะสำหรับที่อะโทมี่”

คำพูดสั้นๆ ที่อธิบายถึงอะโทมี่

‘ทุกอย่างในชีวิตที่เหลืออยู่ของผม’

คีย์เวิร์ดของ ความสำเร็จของอะโทมี่

01 ความรู้สึกขอบคุณในใจ

02 เอาชนะความน่าเบื่อของการทำอะไรซ้ำๆ

03 ยอมรับคนอื่นๆ

อะโทมี่ - ที่ที่ต้องการผมมากที่สุด ที่ที่ผมมีความสุขที่สุด ที่ที่เหมาะสำหรับผมมากที่สุด

ประเด็นสำคัญของอิมพีเรียลมาสเตอร์ ลี ด็อก อู



ข้อ 1 การใช้ชีวิต

ชีวิตในฝัน

"ผมมาถึงจุดตกต่ำที่สุดหลังจากที่ล้มเหลวมา 17 ปีเรื่องธุรกิจเครือข่าย แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้มารู้จักกับอะโทมี่ จากนั้น ผมก็ทำให้ฝันของผมเป็นจริงภายใน 10 ปี และได้ใช้ชีวิตแบบที่ผมฝันไว้"

ข้อ 2 ความรัก

Having love for everyone and everything

การมีความรักให้กับทุกคนและทุกสิ่ง "ผมรักภรรยาของผม รักหุ้นส่วน และรักอะโทมี่ แล้วผมก็ยังรักในสิ่งที่ทำให้ชีวิตผมยากลำบากเพราะมันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้น ผมจึงรู้สึกขอบคุณอุปสรรคเหล่านั้น"

ข้อ 3 การเรียนรู้

การเรียนรู้ที่จะรู้สึกขอบคุณ

"การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ความล้มเหลวในอดีตคือที่มาของความสำเร็จในอนาคต ผมได้เรียนรู้ทุกอย่างที่ผมอยากเรียนรู้ ผมได้เรียนรู้ทุกอย่างที่ผมจำเป็นต้องเรียนรู้ ต่อไป ผมต้องการเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นและรู้สึกขอบคุณในสิ่งต่างๆ ให้มากขึ้น"

ข้อ 4 ชีวิตการทำประโยชน์

การทำประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อสังคมที่ดีขึ้น

"ผมพยายามทำความดี แต่ผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้เมื่อดูจากว่าผมมีรายได้มากเท่าไหร่ ผมอยากมีส่วนทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยความปรารถนาจากใจจริง เมื่อไล่ตามความฝันสำเร็จแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ผมต้องเสียใจอีก นั่นคือเหตุผลที่ผมรู้สึกหลงใหลในอะโทมี่มากขึ้นในช่วงนี้ ผมคิดว่าการทำงานหนักที่อะโทมี่อาจเป็นการทำประโยชน์ให้โลกในรูปแบบหนึ่ง

เนื้อหาในนิตยสาร เช่น ตำแหน่งนั้นเป็นข้อมูลของ THE ATOMIANS 2019 (ตีพิมพ์เดือนพฤษภาคม 2019)