คนส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจเริ่มทําธุรกิจกับอะโทมี่ กล่าวว่า เหตุผลที่ทำอย่างนั้นก็เพราะ: “ผลิตภัณฑ์อะโทมี่มีราคาไม่แพงและคุณภาพดี” แต่สำหรับสตาร์ มาสเตอร์ ยองฮี ควาก นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอตัดสินใจ

เธอฝันถึงชีวิตแบบอเมริกันชน จึงได้อพยพไปอยู่ในอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1979 และได้ลองทําธุรกิจต่าง ๆ มากมาย อาทิ ร้านขายเสื้อผ้า ร้านอาหาร และร้านขายโดนัท น่าเสียดายที่ผลลัพธ์ก็คือ การมีหนี้สินพอกพูนจนไม่สามารถจัดการได้ ปัญหาทับถมจนมาถึงจุดที่เธอต้องการจะจบชีวิตลง แต่เนื่องจากเธอเป็นคริสเตียน เธอจึงไม่อาจทำได้และเริ่มหันมาทำงานเป็นผู้ดูแลผู้ป่วย หลังจากนั้น เพื่อนร่วมงานของเธอซึ่งเป็นสปอนเซอร์คนปัจจุบันของเธอ ได้ขอให้เธอซื้อสินค้าของอะโทมี่ เนื่องจากเธอไม่ได้มีรายได้เดือนละ 2 ล้านวอน เธอจึงคิดว่าผลิตภัณฑ์พวกนี้หรูหราเกินไปสำหรับเธอ “ฉันรู้สึกแย่มากที่ต้องปฏิเสธเพื่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดจึงตัดสินใจซื้อมาชุดหนึ่ง ฉันคิดว่าฉันต้องใช้ผลิตภัณฑ์นี้ให้หมดเพราะจ่ายเงินไปเยอะมาก หลังจากใช้ไปได้สามวัน ฉันรีบโทรหาเพื่อนด้วยความตื่นเต้น" หลังจากทราบจากเพื่อนว่าเธอสามารถซื้อผลิตภัณฑ์นี้ในราคาที่ถูกกว่านี้ได้ถ้าสมัครเป็นสมาชิก ควักจึงรีบสมัครทันทีและได้รู้ว่าเธอสามารถหาเงินได้จากการแนะนำผลิตภัณฑ์นี้ให้แก่คนอื่น ๆ แม้ว่าอะโทมี่ สหรัฐอเมริกายังไม่ได้รับการเปิดตัว แต่ควากก็หมั่นพบปะผู้คนอย่างขยันขันแข็งและคอยแนะนำผลิตภัณฑ์อะโทมี่ให้กับคนโน้นคนนี้ ในเมื่อไม่มีเครื่องมือทางธุรกิจที่เป็นทางการ เช่น ข้อมูลแนะนําบริษัท ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และการจัดสัมมนาภาคภาษาอังกฤษ ดังนั้นอย่างเดียวที่เธอทำได้ก็คือ การออกไปพบปะผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ควากชอบทําอาหารเลี้ยงเพื่อน ๆ และอาหารสไตล์โฮมเมดฝีมือเธอนั้นเต็มไปด้วยความรักและความใส่ใจ จึงช่วยให้เธอสามารถสร้างมิตรภาพที่ดีกับบรรดาพาร์ทเนอร์ของเธอ และมิตรภาพเหล่านี้ก็พัฒนาเป็นความไว้วางใจในไม่ช้า

“ฉันใช้คอมพิวเตอร์ไม่เก่ง และรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถหาคะแนนให้กับพาร์ทเนอร์ของฉันได้อย่างเหมาะสม พูดตรง ๆ ก็คือ ฉันยังคงใช้คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยเป็น (หัวเราะ) ฉันแก่แล้วและไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยี แต่สิ่งนี้ไม่เป็นปัญหาเมื่อทําธุรกิจกับอะโทมี่ ฉันรู้สึกขอบคุณบรรดาพาร์ทเนอร์ของฉันที่ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ฉันขาด”

สตาร์ มาสเตอร์ ยองฮี ควาก เคยมีความฝันแบบอเมริกัน แม้ว่าเธอจะไม่สามารถเติมเต็มความฝันนั้นได้ แต่ทุกวันนี้เธอก็รู้สึกมีความสุข "ถ้าไม่ใช่เพราะอะโทมี่ ชีวิตฉันคงไม่รู้จักกับคำว่า “ความสำเร็จ” แม้ว่าฉันจะไม่สามารถทำให้ ‘อเมริกันดรีม’ ของฉันบรรลุผล ก็ไม่เป็นไร เพราะฉันได้บรรลุอะโทมี่ดรีมแล้ว”

อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่มีค่ามากที่สุดที่คุณได้รับจากอะโทมี่

การเปลี่ยนวิธีการมองโลกและทำให้ฉันมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

ข้อมูล เช่น ตำแหน่ง ฯ เป็นข้อมูลตามนิตยสาร THE ATOMIANS 2020 (ตีพิมพ์ มิถุนายน 2020)