ข่าว
- ผู้เขียน강주리_global
- วันเวลาที่สร้าง2022.09.06 14:23
22. 08. 29 Hankyung Business
"เนื่องจากผมเป็นพนักงานกินเงินเดือน ผมจึงทำงานด้วย 'กรอบความคิดแบบหัวหน้า'...สินค้าคุณภาพที่เยี่ยมยอดและราคาที่ย่อมเยา คือแรงขับเคลื่อนการขยายตัวไปทั่วโลก"
‘สุภาพบุรุษที่ใจดี’
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจทันทีที่ผมได้พบกับปาร์ค ฮันกิล ซีอีโอของอะโทมี่ ในวันสัมภาษณ์ ประธานปาร์คได้ประชุมทางวิดีโอนานหลายชั่วโมงกับบรรดาผู้อํานวยการสาขาทั่วโลก ในระหว่างการสัมภาษณ์ช่วงบ่าย เขาดูเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็มีพลังกระตือรือร้นขึ้นอีกครั้ง ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ เขาวาดภาพในอนาคตไว้อย่างแจ่มชัดว่า "ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข"
นักธุรกิจทุกคนล้วนมีเป้าหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกัน เช่น เงินทอง ชื่อเสียง หรืออํานาจ แต่ทว่าประธานปาร์คกําลังฝันถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และดูเหมือนว่าเขาจะตื่นเต้นไปกับเส้นทางที่นำไปสู่ความฝันนั้น ผมได้พบกับประธานปาร์คที่อะโทมี่ปาร์ค ในเมืองคงจู จังหวัดชุงนัม
- อะไรคือเป้าหมายสูงสุดของ 'อะโทมี่'
“ความสําเร็จของลูกค้า ลูกค้าของอะโทมี่ ได้แก่ บรรดาสมาชิก ผู้บริโภค ผู้บริหาร และพนักงาน รวมถึงบริษัทพันธมิตรของเรา กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งภายใน ภายนอก ส่วนติดต่อลูกค้า และส่วนสนับสนุนของอะโทมี่จะได้รับประโยชน์จากอะโทมี่"
- คําว่า 'บริษัทพันธมิตร' นั้นฟังดูไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไร
“นี่เป็นคําที่อะโทมี่ใช้ บริษัทต่าง ๆ ที่ทําการซื้อขายกับเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อำนาจจากบนลงล่าง แต่พวกเขาเป็นพันธมิตรแนวระนาบที่เราต้อง 'ร่วมมือกัน'"
- ผู้ถือหุ้นอื่น ๆ จะประสบความสําเร็จได้อย่างไร
“ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการซื้อสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นในราคาถูกลง สมาชิกจะได้รับประโยชน์จากการแนะนําผลิตภัณฑ์ของอะโทมี่และได้รับค่าตอบแทน ผู้บริหารและพนักงานได้รับประโยชน์เนื่องจากพวกเขาสามารถเดินตามความฝันของตัวเองผ่านอะโทมี่ ในขณะที่บริษัทพันธมิตรจะได้รับประโยชน์จากส่วนต่างกําไรที่เหมาะสมและช่องทางการขายที่มั่นคง นอกจากนี้ ชุมชนท้องถิ่นและผู้ด้อยโอกาสจะได้รับโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตจากแนวทางปฏิบัติในการแบ่งปันของอะโทมี่ ในทํานองเดียวกัน การมีอยู่ของอะโทมี่ ก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย นั่นก็คือความสําเร็จของลูกค้าที่อะโทมี่กล่าวถึง และเป้าหมายสูงสุดที่อะโทมี่มุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุผล”
- ถ้าอย่างนั้น การแบ่งปันต่อกันเป็นทอด ๆ ก็สอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของคุณเช่นกัน
"ใช่แล้ว หนทางของเรายังอีกยาวไกล แต่ผมเชื่อว่าอะโทมี่ได้กลายเป็น 'องค์กรที่ยั่งยืน' ในระดับหนึ่ง เนื่องจากเรามียอดขายถึง 2 ล้านล้านวอน ที่ผ่านมาจะเห็นว่าผู้บริโภค ผู้บริหาร พนักงาน สมาชิก และบริษัทพันธมิตรของเราสามารถ 'อยู่รอดได้' ภายในขอบเขตของอะโทมี่/รั้วบ้านอะโทมี่/อาณาเขตของอะโทมี่ ดังนั้น ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เราสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่นและผู้ด้อยโอกาส และเรายังแบ่งปันให้เด็ก ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเพราะเด็ก ๆ นั้น'ล้ำค่า' และจะเป็นผู้นําอนาคตของมนุษยชาติ"
- อะโทมี่จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากหลาย ช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพัฒนาหรือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาจำหน่าย
“โดยพื้นฐานแล้ว เราจะพิจารณาว่า 'ผลิตภัณฑ์นี้จำเป็นสำหรับความต้องการประจำวันของผู้บริโภคหรือไม่' และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี 'คุณภาพยอดเยี่ยมในราคาย่อมเยา' หรือไม่ ‘คุณภาพที่กล่าวถึงนี้หมายถึงคุณภาพชั้นเยี่ยมที่ไม่มีใครเทียบได้ หรือในราคาถูกที่สุดไม่มีใครจะสามารถขายต่ำกว่าราคานี้ได้อีกแล้ว' ใช่หรือไม่”
- ผมสงสัยว่าทำไมคุณถึงก่อตั้งอะโทมี่
“หลักการของเน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้งนั้น สอดคล้องกับธรรมชาติของธุรกิจกระจายสินค้า ดังนั้น ผมจึงต้องการพิสูจน์ว่าเราสามารถแข่งขันกับบริษัทจัดจําหน่ายแห่งใดก็ได้ ถ้าเราปฏิบัติตามหลักการ เน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้ง คือการจัดจําหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพดีและราคาที่สมเหตุสมผลทดแทนการใช้กลยุทธ์ทางการตลาด จากนั้น ก็แบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ ที่ได้รับนี้กับคนรู้จัก เพื่อนฝูง และญาติพี่น้อง ผมก่อตั้งอะโทมี่ขึ้น โดยคิดว่าผมต้องการทําการตลาดเครือข่ายที่แท้จริง ซึ่งทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และพนักงานขาย ไม่มีใครขาดทุนเลย มีแต่จะได้กำไร"
- ชื่อบริษัท ‘อะโทมี่' ฟังดูมีเอกลักษณ์
“คำว่า อะโทมี่ เป็นคำผสมระหว่าง 'อะตอม' ที่หมายถึงอะตอม และ 'มี่ (美)' ซึ่งในภาษาเกาหลีหมายถึงความงาม เหตุผลที่อะตอมและความงามเชื่อมโยงถึงกันก็คือ 'ผลิตภัณฑ์หลักของอะโทมี่ ทั้งเฮโมฮิม และเครื่องสําอาง ส่วนใหญ่แล้วผลิตขึ้นจากส่วนผสมที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยพลังงานปรมาณูของเกาหลี (Korea Atomic Energy Research Institute) เราได้เพิ่ม 'my(美)' เพราะส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ในหมวดความงาน ได้แก่ เครื่องสําอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และโดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าความงามคือสิ่งสําคัญที่สุดในบรรดาความจริง ความดี และความงาม ผมคิดว่าคำพูดต่าง ๆ เช่น ความบรรสานสอดคล้องของจักรวาล พลังชีวิต ความสว่าง การทำให้ตนเองบริสุทธิ์ และความหวังใจในชีวิตนิรันดร์นั้น ล้วนอยู่ในบริบทของความงาม"
- อะไรทําให้เครื่องสําอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของอะโทมี่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ
“อะโทมี่เชื่อมั่นเสมอว่าประโยชน์ของผู้บริโภคคือประโยชน์ของอะโทมี่ กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ การขายสินค้าที่ดีในราคาย่อมเยา คือแผนการตลาดที่ดีที่สุด นี่คือข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของอะโทมี่"
- ก่อนที่จะมาเริ่มธุรกิจนี้ คุณเป็นพนักงานแบบไหน
“ผมอยากเป็นพนักงานที่พึงปรารถนา แต่ในหลาย ๆ ด้าน บางทีผมอาจจะเป็นคนที่น่ารำคาญ นั่นก็เพราะผมทำงานด้วยกรอบคิดของการบริหารจัดการ แม้แต่ตอนที่ผมยังเป็นพนักงานระดับล่างที่อายุยังน้อย เช่น การที่ผมได้รับยอดสั่งซื้อจากลูกค้าจำนวนมากโดยไม่คาดคิด และผมได้จัดทำสายการผลิตของตนเองขึ้นมา หลังจากที่ได้รับยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ ๆ ที่บริษัทยังไม่มีแผนจะพัฒนาเลยด้วยซ้ำ และเมื่อผมรับงานมาแล้ว ผมจะผลักดันไปจนกว่างานนั้นจะสำเร็จ ในแง่หนึ่ง พูดได้ว่าผมเป็นคนบ้างาน ดังนั้น หัวหน้าของผมจึงมักจะบังคับให้ผมหัดตีกอล์ฟ เพื่อให้ผมได้ผ่อนคลายในระหว่างการทํางาน”
- มีเหตุผลพิเศษอะไรหรือไม่ที่ทําให้คุณพุ่งเป้าหมายไปที่ตลาดต่างประเทศนอกเกาหลี
“คงพูดไม่ได้ว่าผมมีเหตุผลพิเศษ ผมเพียงแค่ต้องการให้บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศมากกว่ารายได้จากในประเทศเกาหลีมาตั้งแต่แรก ถ้าคุณขายสินค้าดี ๆ ในราคาย่อมเยา คุณก็สามารถจะแข่งขันในประเทศไหนก็ได้ทั่วโลก ไม่มีผู้บริโภคคนไหนจะปฏิเสธ ถ้าพวกเขาสามารถซื้อสินค้าที่พวกเขาต้องใช้อยู่ตลอดในราคาที่ถูกกว่า แต่มีคุณภาพดีกว่า อะโทมี่จะไม่ลังเลที่จะไปยังที่ใดก็ได้ในโลก ถ้ามีผู้บริโภคสักคนที่กําลังมองหาผลิตภัณฑ์ของอะโทมี่ ผมจบปริญญาตรีด้านการค้า และจบปริญญาเอกด้านการบริหารธุรกิจในสาขาการตลาดระหว่างประเทศ (เขายิ้ม)"
- ช่วงเวลาไหนที่เป็นช่วงเวลาที่ยากลําบากที่สุดของธุรกิจคุณ และคุณผ่านพ้นมาได้อย่างไร
“ผมคิดว่าชีวิตโดยตัวมันเองแล้วก็เป็นเรื่องยาก เป็นความทุกข์ เป็นเรื่องยากที่คุณจะอยู่เฉยๆและผ่อนคลาย ถ้าคุณไม่มีงานทำ ดังนั้นคุณจึงต้องสละความสุขสบาย พูดตามตรง ช่วงเวลาที่ยากที่สุดก็คือตอนที่ผมเริ่มทําธุรกิจอะโทมี่ช่วงแรก ๆ ผมสูญเสียทุกอย่าง ทั้งสุขภาพ ทรัพย์สิน และผู้คน อันเป็นผลมาจากความล้มเหลวในการทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตช้อปปิ้งมอลล์ที่ชื่อ imkorea.com หลังจากรู้ว่าตัวเองมีเวลาจำกัด ผมจึงทำใจให้ว่างและตัดสินใจมาอยู่ข้างพระเจ้า แม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก แต่ผมก็สบายใจที่รู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างผม เมื่อมองย้อนกลับไป แม้แต่ตอนนี้เองผมก็ยังรู้สึกประหลาดใจว่าผมสามารถจะวางแผนเกี่ยวกับอะโทมี่ได้อย่างไรในสถานการณ์ที่ยากลําบากแบบนั้น ผมคิดว่าผมมาถึงวันนี้ได้เพราะผมไม่มีความขุ่นเคืองและความโกรธในจิตใจอีกแล้ว"
- ผมอยากทราบถึงแผนการในอนาคตของคุณ
“ก่อนหน้านี้เราได้มุ่งเน้นที่การสร้างระบบที่ให้ผลกำไรที่ดี แต่นับจากนี้ไป เราต้องการจะสร้างระบบที่ใช้ได้ดี มีประสิทธิภาพ ระบบที่ใช้ได้ดีจะเกี่ยวข้องกับการแบ่งปันกันอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้บริจาคเงินจํานวน 14,000 ล้านวอนให้แก่ Compassion เนื่องจากองค์กรนี้นำเงินบริจาคไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ พระคัมภีร์กล่าวว่า "ถ้าเมล็ดข้าวสาลีไม่ได้หล่นลงดินและตายไป ก็จะคงอยู่เพียงเมล็ดเดียว แต่ถ้าตายแล้วก็จะเกิดผลให้มีเมล็ดอื่น ๆ มากมาย" ในทํานองเดียวกัน ระบบที่ใช้ได้ดีคือระบบที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้นในระหว่างระยะเวลาที่ใช้ระบบนั้น อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรแจกปลาเพื่อบรรเทาความหิวเพียงชั่วคราว แต่เราต้องก่อตั้งระบบและให้การสนับสนุนเพื่อสอนวิธีการจับปลา เป็นการสร้างชุมชนที่คุณสามารถสร้างโครงข่ายการคุ้มครองทางสังคมด้วยตัวคุณเอง ซึ่งนั่นจะเป็นระบบที่ใช้ได้ดีอย่างแท้จริง"
- ให้ดีกว่า ให้ถูกกว่า...ความลับของความสำเร็จ ยอดขาย 2 ล้านล้านของอะโทมี่ [บิสสิเนส โฟกัส]
- อะโทมี่ได้รับรางวัล Grand Prize ในงานมอบรางวัล Consumer Rights Awards ครั้งที่ 1 ปี 2022