อะโทมี่ช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างสมดุล
ด้วยการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
สัมภาษณ์ประธานปาร์ค ฮันกิล
มงซัง ปาร์ค ฮันกิล คือกัปตันเรือโกลบอลอะโทมี่ แม้ต้องเผชิญกับพายุที่ถาโถมในปี 2020 แต่เรืออะโทมี่ยังคงแล่นฉิว
มงซังมีความฝันใหม่ ๆ อะไรบ้างในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อากาศสดใสนี้ เขาเปิดเผยแนวคิดเกี่ยวกับอนาคตและปัจจุบันของอะโทมี่
สโลแกนของปีนี้คือ “เลือกสองจากสอง" (兩者擇二) คำกล่าวนี้หมายถึงอะไร
อะโทมี่เป็น "อัจฉริยะทั้งสองด้าน" มาโดยตลอด โดยเลือกทั้งสองทางที่ได้รับการนำเสนอ ผมขอตีความว่าคำกล่าวนี้หมายถึง “การเลือกทุกทางเลือก” (多者擇多) มีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ชอบอะไรที่ซับซ้อน โลกนี้ไม่ใช่สถานที่ที่เรียบง่าย แต่พวกเขาต้องการให้โลกปล่อยให้พวกเขาคิดและทำอะไรง่าย ๆ คนเหล่านี้มีลักษณะอย่างหนึ่งก็คือ ชีวิตของพวกเขานั้นเป็นเรื่องยาก อะโทมี่ไม่ได้ละเลยด้านที่ตรงข้ามกันใด ๆ; คุณภาพชั้นเยี่ยมในราคาย่อมเยา, การขยายลูกค้า-การขยายสมาชิก, ธุรกิจออฟไลน์-ธุรกิจออนไลน์, ธุรกิจภายในประเทศ-ธุรกิจต่างประเทศ, ความมุ่งมั่น-การผ่อนคลาย และการมีวินัย (ความยุติธรรม)-ความเมตตา (ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่) เพื่อให้บรรลุทั้งสองด้าน เราต้องใช้ความพยายามอย่างแรงกล้าหรือมุ่งมั่นทุ่มเท
โดยปกติแล้ว เราจะพูดถึงทางเลือกและสิ่งที่มุ่งเน้น
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา และมักได้รับการกล่าวถึงในตำราการบริหารธุรกิจ ถ้าเราสามารถใช้ชีวิตในตำราได้ ใคร ๆ ก็คงอยากจะทำ บริษัทต่าง ๆ ที่ไม่แม้แต่จะสามารถทำอย่างที่เขียนไว้ในตำราได้ ก็ย่อมล้มเหลวและอำลาวงการไปในที่สุด โลกนี้ไม่ง่ายพอที่จะทําให้คนธรรมดาประสบความสําเร็จ ผมมักจะพูดว่า "จงปฏิเสธความธรรมดา" และ "เป็นคนที่ไม่ธรรมดา" ถ้าอะโทมี่ให้ความสําคัญกับเรื่องคุณภาพหรือราคาอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เราจะสามารถประสบความสําเร็จเช่นนี้ได้หรือไม่ แต่เพราะผมได้เลือกเส้นทางที่ไม่ธรรมดา อะโทมี่จึงมายืนอยู่ในจุดที่เราเป็นเช่นทุกวันนี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน แต่การเดินไปในเส้นทางที่ไม่ธรรมดาก็คือการเป็นอัจฉริยะทั้งสองด้าน และถือว่ายอดเยี่ยม
การเว้นระยะห่างทางสังคมยังคงต้องทำต่อไป
และเราต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเรื่องการกักตัว ธุรกิจออนไลน์จึงเป็นทิศทางในอนาคต กระแสลมของโควิด-19 ได้พัดพาไปในทิศทางอย่างที่เป็นอยู่ การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบออนไลน์ของอะโทมี่ถือว่าเร็วกว่าบริษัทอื่น ๆ นั่นเป็นเพราะอะโทมี่ได้คาดการณ์และเตรียมพร้อมสําหรับเรื่องนี้มาก่อนแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องทํางานหนักขึ้นสําหรับเนื้อหาวิดีโอประเภท Pop & Fun แล้ว แม้ว่าเราทุกคนจะสามารถพบหน้ากันได้อีกครั้งในอนาคต แต่การใช้งานทรัพยากรออนไลน์จะต้องดําเนินต่อไป เราต้องเป็นอัจฉริยะทั้งสองด้าน เราต้องเลือกทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ดูเหมือนว่าการเลือกทั้งสองแบบจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่สองทางนี้ก็ช่วยเสริมซึ่งกันและกันและทำให้เกิดการผนึกกำลังกันได้ดียิ่งขึ้น
เจ้าของธุรกิจมีความรู้ความชำนาญพอสมควรในธุรกิจออฟไลน์ แต่ไม่ใช่ในธุรกิจออนไลน์ถ้าอย่างนั้นควรทําอย่างไร
อีกไม่นานพวกเขาก็จะเริ่มคุ้นเคย ธุรกิจหลายส่วนได้เริ่มดำเนินการแบบออนไลน์แล้ว ผมได้ชมวิดีโอของนักธุรกิจอะโทมี่ที่เผยแพร่ใน YouTube หรือเข้าร่วมการประชุมผ่าน Zoom ทุกครั้งที่มีโอกาส ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องดีมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาขาของเราในทั่วโลกเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 40% ในปีที่แล้ว
Atomy Personal Platform (APP) ที่จะเปิดตัวในปีนี้จะเป็นนวัตกรรมใหม่เช่นเดียวกับหลักการคุณภาพชั้นเยี่ยมในราคาย่อมเยา (Absolute Quality Absolute Price) ผมแน่ใจว่าคุณคงรู้จักแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากมาย เช่น Google หรือ Amazon แต่ด้วย APP สมาชิกอะโทมี่จะกลายเป็นเจ้าของธุรกิจแพลตฟอร์ม นักอนาคตศาสตร์คาดการณ์ว่าในอนาคต ความมั่งคั่งจะมุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์ม แต่เป็นไปไม่ได้ที่บุคคลจะเป็นเจ้าของและดําเนินธุรกิจแพลตฟอร์มที่ซับซ้อน ด้วยเหตุนี้ อะโทมี่จึงช่วยให้เจ้าของธุรกิจของเราสามารถจัดทำและรันแพลตฟอร์มส่วนบุคคลได้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยกระดับขึ้นมา
เจ้าของแพลตฟอร์มส่วนบุคคลสามารถแสดงผลิตภัณฑ์อะโทมี่ที่พวกเขาชอบ และสร้างสรรค์และอัปโหลดเนื้อหาของตนเอง คุณยังสามารถตอบคําถามของผู้บริโภคหรือพาร์ทเนอร์ได้ เช่นเดียวกับบล็อกและฟอรั่มต่าง ๆ คุณสามารถโปรโมทที่อยู่แพลตฟอร์ม (URL) ของคุณผ่านทางกิจกรรมออนไลน์และออฟไลน์ แอปนี้ไม่เพียงแต่เชื่อมต่อสมาชิกอะโทมี่เข้าด้วยกันเท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกซึ่งเป็นผู้บริโภคของเราได้อีกด้วย ระบบนี้จะทําให้อะโทมี่สามารถทะยานสูงขึ้นไปอีกระดับ
ถ้าคุณดูบล็อกและฟอรั่มต่าง ๆ ที่ดําเนินการโดยนักธุรกิจอะโทมี่ จะพบว่ามีข้อกังวลเกี่ยวกับการโฆษณาเกินจริงและปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์
ปัญหาเหล่านี้จะได้รับการจัดการอย่างไรในแพลตฟอร์มส่วนบุคคล
มีวิธีการแก้ไขในเรื่องนี้ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว อะโทมี่ได้รับสิทธิบัตรสําหรับวิธีการกําหนดและกรองความเหมาะสมของเนื้อหาที่บรรดาสมาชิกได้อัปโหลดไว้ในแพลตฟอร์มส่วนบุคคลโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ สิทธิบัตรนี้เกี่ยวข้องกับ 'อุปกรณ์และวิธีการตรวจสอบการเข้าถึงเนื้อหาด้านการตลาด'
ทั้งนี้ เป็นเรื่องยากมากที่สมาชิกจะตรวจสอบว่าเนื้อหาที่พวกเขาอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์มของตนนั้นเป็นการโฆษณาเกินจริงหรือไม่ หรือมีปัญหาลิขสิทธิ์ใด ๆ หรือไม่ ด้วยเหตุนี้ อะโทมี่จึงได้จัดทำระบบ AI เพื่อคัดกรองสิ่งต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ สิทธิบัตรนี้เป็นที่น่าสนใจมากในแวดวงวิชาการ เพราะอีกไม่นานนี้ จะมีการตีพิมพ์ปริญญานิพนธ์หลายฉบับในหัวข้อนี้ ด้วยความพยายามเหล่านี้ สมาชิกจะสามารถจัดการแพลตฟอร์มส่วนบุคคลของตนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"บริษัทเติบโต 40% ในปีที่แล้วในส่วนของการดำเนินงานในต่างประเทศ Atomy Personal Platform (APP) ที่จะเปิดตัวในปีนี้จะเป็นนวัตกรรมใหม่เช่นเดียวกับหลักการคุณภาพชั้นเยี่ยมในราคาย่อมเยา (Absolute Quality Absolute Price)”
คุณจะยังคงสนับสนุนตลาดทั่วโลกหรือไม่
โลกออนไลน์ไม่มีพรมแดนระหว่างประเทศ เจ้าของแพลตฟอร์มส่วนบุคคลสามารถสื่อสารกับพาร์ทเนอร์และผู้บริโภคได้ไม่เพียงแต่ในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนในทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน สหราชอาณาจักร รัสเซีย ไต้หวัน และญี่ปุ่น ผ่านระบบการแปลข้อความและเสียงอัตโนมัติ เราสามารถเข้าสู่โลกในฐานะตลาดเดียวได้
ถ้าแพลตฟอร์มส่วนบุคคลมีบทบาทสูง บริษัทคู่แข่งส่วนใหญ่ก็อาจจะเลียนแบบแพลตฟอร์มนี้ คุณมีมาตรการรับมือในเรื่องนี้ไหม
"ระบบและวิธีการให้บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบปิดบนแพลตฟอร์มส่วนบุคคล" ก็ได้รับการจดสิทธิบัตรด้วย คู่แข่งอาจสามารถเลียนแบบแพลตฟอร์มส่วนบุคคลในลักษณะที่คล้ายกัน แต่ความสามารถในการแข่งขันหลักของแพลตฟอร์มจะไม่สามารถทําซ้ำได้
อะโทมี่มีหลักการ “คุณภาพชั้นเยี่ยมในราคาย่อมเยา”, กลยุทธ์ Global Sourcing Global Sales (GSGS), ระบบความสําเร็จของลูกค้า, ระบบตลาดเดียวทั่วโลก, แผนการจ่ายค่าตอบแทนแบบมีเส้นสูงสุด และระบบ Magnetic Board ที่สนับสนุน APP สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คู่แข่งไม่สามารถทำซ้ำให้เหมือนเราได้ หรือแม้แต่พวกเขาสามารถทำได้ ก็ไม่มีอะไรที่เราจะต้องกังวล เพราะกว่าจะถึงตอนนั้น เราก็คงก้าวไปไกลกว่าหลายขั้นแล้วด้วยการพัฒนามิติอื่น ๆ
ทําไมคุณจึงกำหนดวิสัยทัศน์ของบริษัทว่าคือ ความสําเร็จของลูกค้า
นั่นก็เพราะความสําเร็จของบริษัทขึ้นอยู่กับความสําเร็จของลูกค้า ไม่มีบริษัทไหนจะประสบความสําเร็จได้ ถ้าไม่มีลูกค้า และด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน ผมจึงคิดว่าการก้าวขึ้นเป็นอัจฉริยะทั้งสองด้านคือคำตอบ ถ้าบริษัทหนึ่ง ๆ ล้มเหลวเนื่องจากให้บริการลูกค้าของตน ก็แสดงว่าบริษัทนั้นคงจะมีผลงานที่แย่มาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทที่ด้อยประสิทธิภาพ ก็ยังมีอีกหลายกรณีที่บริษัทหนึ่ง ๆ ต้องล้มเหลวเพราะไม่มีฐานลูกค้าเนื่องจากบริษัทนั้นทำแต่ในสิ่งที่ตนต้องการและไม่ได้ใส่ใจดูแลลูกค้าของบริษัท
หรืออาจพูดในเชิงเปรียบเทียบว่า หลายคนบอกว่าการบริการลูกค้าคือการทำตัวให้ดี แต่ผมว่าจริง ๆ แล้วคือการทำตัวให้ฉลาด เราแทบจะนึกไม่ออกว่ามีบริษัทไหนที่ให้ความสำคัญกับประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ มากกว่าประโยชน์ของบริษัท เพราะอย่างนี้จึงมีบริษัทที่ดีเพียงไม่กี่แห่ง และมีบริษัทจำนวนมากที่ต้องเลิกราไปเพราะให้บริการแต่เฉพาะลูกค้า และกลับล้มเหลว แต่การกระทำนี้เป็นเพราะความโง่เขลา ไม่ใช่ความเลว
การที่เราบอกว่าความสําเร็จของลูกค้าต้องมาก่อน ถือเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีงาม หลายคนบอกผมว่า “อย่าเสียความตั้งใจเริ่มแรกของคุณ!” แต่ผมไม่คิดว่าผมต้องมานั่งกังวลเรื่องการเสียความตั้งใจเริ่มแรก เพราะถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ว่าคนดี ๆ อาจกลายเป็นคนเลว แต่ก็มีแนวโน้มมากว่าคนฉลาดอาจกลายเป็นคนเขลา ดังนั้น นั่นไม่ใช่เพราะเราเป็นคนดี แต่เป็นเพราะเราฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าความสําเร็จของลูกค้าต้องมาก่อน
เราจะยังคงรักษาคุณภาพชั้นเยี่ยมในราคาย่อมเยาต่อไปได้หรือไม่ ในขณะเดียวที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ผมไม่กังวลในเรื่องนี้ เพราะเมื่อเราพูดถึง “คุณภาพชั้นเยี่ยมในราคาย่อมเยา” เรากําลังพูดถึงคุณภาพที่ดีเลิศในราคาเท่ากัน และราคาต่ำสุดโดยมีคุณภาพระดับเดียวกัน อะโทมี่เป็นบริษัทเดียวที่สามารถขายเฮโมฮิมได้ในราคาเท่านี้ ถ้าต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ทุกคนก็ต้องประสบกับภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเหมือนกัน และบริษัทอื่น ๆ ก็ต้องขึ้นราคาสินค้าเหมือนกัน เนื่องจากราคาของเราเป็นราคาสมบูรณ์ ดังนั้นเราก็จําเป็นจะต้องขึ้นราคาสินค้าสักเล็กน้อย แต่เรายังคงเป็นผู้นําต่อไป
“ผลิตภัณฑ์ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าไม่อาจปฏิเสธได้ และเมื่อเลือกแล้ว ผลิตภัณฑ์นั้นจะเป็น ‘ผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งาน’ ที่ลูกค้าจะเลือกใช้ตลอดไป”
อะโทมี่ประสบความสําเร็จอย่างมากในตลาดต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว เราคาดว่าจะมีสํานักงานในต่างประเทศมากกว่า 100 แห่งหรือไม่
เราจําเป็นต้องมีสํานักงานในต่างประเทศให้ถึง 100 แห่งหรือไม่ ผมว่าตัวเลขนี้ไม่สลักสำคัญอะไร เราไม่จําเป็นต้องตั้งเป้าหมายบางอย่างเช่นว่า ต้องเปิดสำนักงานต่างประเทศให้ได้ถึง 100 แห่ง องค์ประกอบพื้นฐานที่สุดของธุรกิจของเราเมื่อเราเข้าสู่ต่างประเทศก็คือ ความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ จะเป็นยังไงถ้าเราขยายธุรกิจไปยังบางประเทศ แต่ไม่สามารถบรรลุจุดคุ้มทุน แต่เป็นการขยายเข้าไปเพื่อเพิ่มจำนวนสำนักงานต่างประเทศของเราให้ถึง 100 แห่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงโง่เขลามาก เพราะอย่างนั้น ตัวเลข 100 จึงไร้ความหมาย
ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศ ซึ่งอาจจะสูงถึง 50 ประเทศ ที่อะโทมี่ควรเข้าไปดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ถ้าภาวะเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ เติบโตขึ้นอย่างมากใน 20-30 ปี ซึ่งทําให้อะโทมี่มีผลกำไร เราก็จะเข้าสู่ตลาดเหล่านี้
ตัวอย่างเช่น ในแอฟริกา ซึ่งยกเว้นสามหรือสี่ประเทศ แต่ภูมิภาคส่วนใหญ่ในทวีปนี้ยังเป็นเรื่องยากที่อะโทมี่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจและทำรายได้ให้สูงกว่าจุดคุ้มทุน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเศรษฐกิจในทวีปแอฟริกา จะเป็นการเปิดตลาดมากขึ้นและทำให้เรามีรายได้ถึงจุดคุ้มทุนหรือสูงกว่านั้น โดยสรุปแล้ว ผมว่าไม่มีประโยชน์ที่จะตั้งเป้าหมายว่า “เราจะขยายธุรกิจเข้าไปในหลายประเทศในตอนนี้” แต่มาตรฐานควรอยู่ที่ว่าการเข้าสู่ภูมิภาคนั้นเป็นเรื่องหมาะสมในเชิงเศรษฐกิจหรือไม่
เมื่อเร็ว ๆ นี้ อะโทมี่ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานด้วย คุณคิดว่าบริษัทที่น่าทํางานด้วยคืออะไร
ถ้าพนักงานพูดว่า "บริษัทนี้น่าทำงานด้วยมาก” ผมเชื่อว่านั่นคือคำชมที่น่าภูมิใจสำหรับประธานบริษัท ผมรู้สึกขอบคุณมาก อันที่จริง อะโทมี่เป็นบริษัทที่ดีที่น่าจะเข้าไปเป็นประธานกรรมการ บรรดาผู้บริหารและพนักงานล้วนรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี ส่วนเดียวที่ผมได้มีส่วนร่วมในการสร้างบริษัทที่น่าทำงานด้วยก็คือ ผมไว้วางใจในความซื่อสัตย์และความสามารถของพนักงาน และไว้วางใจที่จะให้พวกเขาดำเนินงานเพื่อบริษัท
คุณต้องการให้อะโทมี่ยังคงเป็นบริษัทแบบไหนต่อไป
ผมคิดว่ามีหลายด้าน ประการแรก เราควรเป็นบริษัทที่ดีสําหรับลูกค้า อะโทมี่ควรเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมในราคาย่อมเยา และดียิ่งขึ้นไปอีก สิ่งสําคัญคืออะโทมี่ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม ตัวอย่างเช่น อะโทมี่ควรเป็นบริษัทที่ดี นั่นคือไม่ทําลายสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม เราควรเป็นบริษัทที่มีคุณค่าสําหรับชุมชน ประเทศ และมนุษยชาติทุกคน
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคํานึงถึงคือ ความคิดเห็นจากลูกค้า เราจําเป็นต้องสื่อสารกับลูกค้าอย่างรวดเร็วและเปิดกว้าง เราติดต่อกับลูกค้าจํานวนมาก และลูกค้าแต่ละรายต่างมีความต้องการของตนเอง ในอดีตเคยมียุคที่คนแทบทุกคนมักคิดเหมือน ๆ กัน หลังจากนั้น คนจำนวนมากต่างก็มีความคิดเห็นของตนแตกต่างกันไป แต่ตอนนี้ เราได้เข้าสู่ยุคของการที่คนคนหนึ่งคิดได้หลายแบบ
เราจําเป็นต้องตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าให้ได้อย่างรวดเร็ว ผมไม่ใช่มาตรฐาน “ลูกค้าถูกต้องเสมอ” ลูกค้ากำลังร้องขอจากเรามากขึ้น ๆ ดังนั้น เราต้องดำเนินการให้เร็วกว่าความต้องการของลูกค้าของเรา บริษัทควรจะสามารถนําเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ก่อนที่ลูกค้าจะรู้ตัวถึงความต้องการนั้นเสียอีก หากเป็นเช่นนี้ ลูกค้าก็จะรู้สึกว่า “โอ้โฮ! ฉันยังไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนี้เลย แต่คุณให้สิ่งที่ดีกว่าที่ฉันคิดเสียอีก!” นอกจากนี้ ในส่วนของเครื่องสําอางและอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งยากที่จะบอกถึงคุณภาพได้เมื่อมองแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก ลูกค้าควรตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้หลังจากที่ได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ ในทำนองว่า “โอ้โฮ! ผลิตภัณฑ์นี้ได้ผลดีเกินกว่าที่คาดไว้”
ตัวอย่างเช่น เครื่องสําอางของอะโทมี่หรือเฮโมฮิม ลูกค้าส่วนใหญ่มักรู้สึกประหลาดใจกับประสิทธิภาพที่ได้รับ ซึ่งเกินความคาดหวังของพวกเขาและทำให้พวกเขากลายเป็นเจ้าของธุรกิจของอะโทมี่ต่อมา ผลิตภัณฑ์ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าไม่อาจปฏิเสธได้ และเมื่อเลือกแล้ว ผลิตภัณฑ์นั้นจะเป็น ‘ผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งาน’ ที่ลูกค้าจะเลือกใช้ตลอดไป เมื่อเป็นอย่างนี้ วิสัยทัศน์ของความสําเร็จของลูกค้าก็จะกลายเป็นความยั่งยืน
คุณต้องการพูดอะไรกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจของอะโทมี่ไหม
เมื่อเริ่มทำธุรกิจอะโทมี่ ขั้นตอนแรกที่จําเป็นก็คือ การทําความเข้าใจอะโทมี่อย่างเต็มที่โดยดูคอนเทนต์ใน Channel Atomy และ YouTube ผมแนะนําให้ดูคลิปวิดีโอ 5 คลิป แต่ละคลิปมีความยาวประมาณ 20 นาที ดังนั้นคุณจะใช้เวลาสองชั่วโมงต่อวัน แน่นอนว่า การศึกษาภาคทฤษฎีย่อมมีข้อจำกัด แต่ผมเชื่อว่าการมีพื้นความรู้ก็ย่อมจะดีกว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจโดยไม่มีข้อมูลความรู้อะไรเลย
นอกจากนี้ การศึกษาผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่ดี แต่จําเป็นต้องลองใช้ผลิตภัณฑ์ด้วย และการทำความเข้าใจเรื่องระบบค่าตอบแทนนั้นเป็นเรื่องยาก แม้ว่าคุณจะใช้เวลาศึกษามาแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณได้รับเจนเนอรัล คอมมิชชันทั่วแล้ว คุณจะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว เรื่องของบุคลิกก็มีความสําคัญมากเช่นกัน! แน่นอนว่าการเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่น ย่อมดีกว่าการเห็นแก่ตัว เมื่อคุณทําธุรกิจอะโทมี่ คุณอาจสอบถามคนที่คุณพบเจอว่า "คุณคิดว่าจะสามารถทํางานที่ทำอยู่ตอนนี้ไปได้อีกกี่ปี คุณมีแผนหลังเกษียณที่เป็นรูปธรรมสำหรับช่วงเวลาอีก 30 ปีที่คุณไม่สามารถทํางานได้อีกต่อไปหรือไม่" ผมมักจะถามคําถามเหล่านี้กับคนอื่น ๆ โดยทั่วไปแล้ว คนที่ถูกถามมักมีสีหน้าที่แสดงความอึดอัดกังวลใจ คุณสามารถแนะนําธุรกิจอะโทมี่ให้เป็นทางเลือกสําหรับผู้ที่ไม่มีแผนดังกล่าว ถ้าคุณอธิบายให้พวกเขาฟังว่ามีธุรกิจที่จะสามารถเป็นฐานสำหรับชีวิตหลังเกษียณ ขณะเดียวกันก็ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีในราคาไม่แพงไปด้วยพร้อมกัน รับรองว่าพวกเขาจะสนใจ
บรรณาธิการ ลี ยองมิน